ไปอยู่ประเทศแคนาดา และเที่ยวหลายเดือน ถึงเวลาต้องออกจากประเทศแล้วบินจากเกือบเหนือสุดลงมาเกือบใต้สุดของโลกใบนี้ นั่นก็คือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศนี้ถือว่าเป็นเกาะทีีใหญ่ที่สุดในโลก (ไม่ใช่ประเทศนะจ๊ะ แค่ในนามของเกาะ เท่านั้น) แต่ประเทศออสเตรเลียต่อให้ชื่อว่าเกาะ แต่ก็เป็นประเทศที่ผู้คนที่นี่ ดูเป็นมิตรมากเช่นกัน เมื่อเทียบกับประเทศตะวันตกอื่น ๆ แล้ว คนออสเตรเลีย Nice and Friendly มากกว่า แต่บางคนว่าไม่จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่รัฐไหน เมืองไหน ทุก ๆ ที่ มีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนไป
ประเทศออสเตรเลียมีภาษาราชการ คือ ภาษาอังกฤษ (Australian accent -สำเนียงออสซี่) จะฟังยากหรือฟังง่าย อันนี้ก็ต้องลองมาแล้วทดลองเอาประสบการณ์กันไป แต่ละที่แต่ละสำเนียงก็แตกต่างกันออกไป คนที่นี่ไม่ค่อยเครียดกับชีวิตเท่าไหร่ เมื่อเทียบกัีบประเทศตะวันตกหลาย ๆ ประเทศ อาจเป็นเพราะมีอากาศไม่ค่อยหนาว และร้อนเห็นพระอาทิตย์เกือบทั้งปี คนที่นี่เลยดู ร่าเริง active กันมาก ๆ ประเทศนี้มีประชากร ประมาณ 22,000,000 คน มีทั้งหมด 6 รัฐ คือ นิว เซาว์ เวลส์ (New South Wales), ควีนสแลนด์ (Queensland), เซาท์ ออสเตรเลีย (South Australia), ทัชเมเนีย (Tasmania), วิคตอเรีย (Victoria) และ เวสเทิรน์ ออสเตรเลีย (Western Australia) และ 2 major mainlands คือ นอร์ทเทิรน์ แทริทอรี่ (Northern Territory), ออสเตรเลี่ยน แคพิตอล แทริทอรี่ หรือ แอ็ค (Australian Capital Territory-ACT) มีเมืองหลวงชื่อ Canberra ซี่งอยู่ที่ Australian Capital Territory-ACT (หลายคนเข้าใจผิดว่า ซิดนีย์คือเมืองหลวง ซึ่งไม่ใช่ ซิดนีย์คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย)
สกุลเงิน AUD ($) หรือ ออสเตรเลียน ดอลล่าห์
สัญลักษณ์ประจำชาติ คือ จิงโจ้ และ หมีโคล่า
ประเทศออสเตรเลีย มีชนพื้นเมืองอยู่มากหรือที่เรียกว่า Indigenous people /Aboriginal people ซึ่งจะอยู่ไปตามรัฐต่าง ๆ แต่จะเห็นมากที่ นอร์ทเทิรน์ แทริทอรี่ (Northern Territory) ถ้ามาออสเตรเลีย อย่าพูดคำว่า Aboriginal /Abo นะคะ เพราะว่าดีไม่ดี พูดไปแล้วเดินผ่านแบบไม่รู้ตัว เจอเสียวสันหลังแบบไม่รู้ตัว
เวลาที่นี่ก็จะมีการแบ่งเวลาของประเทศออสเตรเลียเองเช่นกัน ซึ่งเวลา ที่ซิดนีย์ (west coast/Pacific Ocean) ห่างจาก เวลาที่เพิรท์ (east coast/ the Indian Ocean) อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง
ฤดู (Seasons) ที่นี่ มีทั้งหมด 4 ฤดู ดังนี้
ฤดูหนาว (Winter) เริ่มจาก เดือน มิถุนายน- สิงหาคม ของทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน โดยประมาณ 4 -23 องศา ถ้าขึ้นไปทางเหนือของออสเตรเลีย เช่น Northern Territory จะไม่หนาวเลย
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เริ่มจาก กันยายน - พฤศจิกายน ของทุกปี ดอกไม้ต้นไม้จะเปลี่ยนสีบ้าง (แต่ไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศตะวันตกอื่นๆ) อุณหภูมิในแต่ละจังหวัดโดยเฉลี่ย ประมาณ 15-28 องศา
ฤดูร้อน (Summer) เริ่มจาก ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี อุณหภูมิโดยเฉลี่ยนประมาณ 30-47 องศา ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด ซึ่งจะร้อนมาก ๆ ในฝั่งตะว้ันตกและฝั่งเหนือของประเทศออสเตรเลีย เมื่อเทียบกับฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย (east coast)
ฤดูใบไม้ร่วง (Fall) เริ่มจาก มีนาคม - พฤษภาคม ของทุกปี ดอกไม้ต้นไม้ต่างๆ มีใบร่วงหล่นเป็นสีน้ำตาลบนพื้นมาก ๆ อุณหภูมิจะเริ่มเปลี่ยนโดยเฉลี่ย ประมาณ 10-25 องศา ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด
วันนี้เราพามาที่เมืองหลวงของ Western Australia คือ เพิรท์ (Perth) อยู่ฝั่ง west coast ของประเทศออสเตรเลีย มาวันแรก ก็ต้องสำรวจในเมืองสักหน่อยว่ามีอะไรบ้าง ไปชมภาพสวย ๆ กันเลยคะ
ภาพสวนสวย ๆ จากในเมืองเพิรท์
เรือที่จอดอยู่ที่ท่า Barrack
ตึกสวย ๆ
หงส์ หรือ Black Swan
ตึกรัฐเก่าของเมืองนี้
สัญลักษณ์จิงโจ้
เป็นอีกแหล่งช็อปปิ้ง เรียกว่า London Court
ที่เป็นโดมขึ้นมา เป็นที่สำหรับจัด Events กันบ่อยมาก แล้วก็สถานีของการปล่อยรถประจำทางอีกจุดหนึ่งไปทั่ว เพิรท์
มุมสวย ๆ ของเซาท์ เพิรท์ (South Perth) ซึ่งคนออสเตรเลียเค้าว่ากันว่า เซาท์ เพิรท์ (South Perth) เป็นที่ดินและบ้านที่แพงที่สุด ของเวสเทิรน์ออสเตรเลีย (Western Australia)
Perth Bell Tower
Town Hall on Barrack St.
พอจะหอมปากหอมคอกันบ้าง สำหรับทริปในเมืองเพิรท์ ของประเทศออสเตรเลียในวันนี้นะคะ :)
ประสบการณ์ท่องเที่ยว สามารถเปิดโลกกว้างในสิ่งที่คุณอาจไม่รู้และได้เห็นในโลกใบนี้
Saturday, July 12, 2008
Wednesday, July 9, 2008
Fremantle
ครั้งนี้ ขอพาออกมานอกเมืองหน่อย เป็นที่ที่ ชาวเพิรท์ ต้องไปกันในเสาร์ -อาทิตย์ เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมาก บางทีก็มี Street Performance , parades, markets, etc.
ที่ ฟรีแมนเทิล (Fremantle) ไปได้ง่าย ๆ มาก นั่งรถไฟจากตัวเมืองเพิรท์ออกไป แล้วลงสถานี ฟรีแมนเทิล ประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว พอลงจากสถานีปั๊บ สามารถเดินได้รอบเลย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร ต่าง ๆ ทั้งหลาย รวมทั้งตลาด หาซื้อของตกแต่งบ้านหรือของกิน ก็มีให้เลือกตามใจ หรือถ้าจะไปรับประทานอาหารที่ Bay /Ocean views ก็ได้ เหมือนกัน ได้บรรยากาศไปอีกแบบ พอกินเสร็จ อยากเอนหลัง ชิว ๆ ก็ไปตามชายหาด หรือจะเดินย่อย เรียบทะเล หรือส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย (the Indian Ocean) ก็ได้
ภาพส่วนหนึ่งของ ฟรีแมนเทิล
มุม Bay ของฟรีแมนเทิล
มีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ฟรีแมนเทิล ชื่อว่า Notre Dame University
Submarines หรือที่เรียกว่า เรือดำน้ำ นั่นเอง อันนี้คืออันที่ใช้ตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่ สอง แล้วที่ท่าฟรีแมนเทิลคือท่าที่เค้าเคยรบกันในสมัยนั้น
พวกเรือขนถ่ายสินค้า ที่ท่านี้กันเยอะ
อีกมุมนึงสัญลักษณ์ของฟรีแมนเทิล
ตลาด E-shed market ที่นี่มีของระลึกที่ขายถูก และหลากหลายกว่าในเมืองเพิรท์
Fremantle Market ตลาดซื้อของสด หรือของตกแต่งบ้านทั้งหลาย
Fremantle view overlooking to the Indian Ocean
นกนางนวล หรือ Seagulls
อีกมุมนึง ของ วิว the Indian Ocean
เค้าว่าที่นี่ เคยเป็นคุกเก่า จองจำนักโทษในสมัยสงคราม
อีกมุมนึง จาก Bay viewและก็มี Yachts club ให้เช่าด้วย
ทริปนี้จบด้วยท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี ไม่ร้อนไม่หนาวมาก ในหน้าหนาวของเพิรท์ ประเทศออสเตรเลียคะ
ที่ ฟรีแมนเทิล (Fremantle) ไปได้ง่าย ๆ มาก นั่งรถไฟจากตัวเมืองเพิรท์ออกไป แล้วลงสถานี ฟรีแมนเทิล ประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว พอลงจากสถานีปั๊บ สามารถเดินได้รอบเลย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร ต่าง ๆ ทั้งหลาย รวมทั้งตลาด หาซื้อของตกแต่งบ้านหรือของกิน ก็มีให้เลือกตามใจ หรือถ้าจะไปรับประทานอาหารที่ Bay /Ocean views ก็ได้ เหมือนกัน ได้บรรยากาศไปอีกแบบ พอกินเสร็จ อยากเอนหลัง ชิว ๆ ก็ไปตามชายหาด หรือจะเดินย่อย เรียบทะเล หรือส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย (the Indian Ocean) ก็ได้
ภาพส่วนหนึ่งของ ฟรีแมนเทิล
มุม Bay ของฟรีแมนเทิล
มีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ฟรีแมนเทิล ชื่อว่า Notre Dame University
Submarines หรือที่เรียกว่า เรือดำน้ำ นั่นเอง อันนี้คืออันที่ใช้ตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่ สอง แล้วที่ท่าฟรีแมนเทิลคือท่าที่เค้าเคยรบกันในสมัยนั้น
พวกเรือขนถ่ายสินค้า ที่ท่านี้กันเยอะ
อีกมุมนึงสัญลักษณ์ของฟรีแมนเทิล
ตลาด E-shed market ที่นี่มีของระลึกที่ขายถูก และหลากหลายกว่าในเมืองเพิรท์
Fremantle Market ตลาดซื้อของสด หรือของตกแต่งบ้านทั้งหลาย
Fremantle view overlooking to the Indian Ocean
นกนางนวล หรือ Seagulls
อีกมุมนึง ของ วิว the Indian Ocean
เค้าว่าที่นี่ เคยเป็นคุกเก่า จองจำนักโทษในสมัยสงคราม
อีกมุมนึง จาก Bay viewและก็มี Yachts club ให้เช่าด้วย
ทริปนี้จบด้วยท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี ไม่ร้อนไม่หนาวมาก ในหน้าหนาวของเพิรท์ ประเทศออสเตรเลียคะ
Tuesday, July 1, 2008
Canada National Day
วันนี้เรามาเคาน์ดาวน์ให้กับวันชาติของประเทศแคนาดา (Canada National Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 1 กรกฎาคม ของทุกปี สมัยก่อนคนแคเนเดียน เรียกวันนี้ว่า Dominion Day (แบบอังกฤษ) หรือเรียกว่า Le Jour de la Confédération (แบบฝรั่งเศส) ปกติ ชาวแคเนเดียน ก็จะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง หรือพาลูกออกไปเที่ยวนอกบ้าน แต่ละที่จะมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย แต่ที่ดังมาก ๆ และกิจกรรมเยอะไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ คือ ที่โตรอนโต้ ที่นี่มีการจัดกิจกรรมมากมาย เช่น parades, carnivals, fires และก็จะมีมุมครอบครัวและเด็ก ๆ ให้ได้เรียนรู้ และทดลองสำหรับในวันชาตินี้
พอตกเย็น คนแคเนเดียนส่วนใหญ่จะไปเคาน์ดาวน์กันข้างนอก ที่ ๆ popular มากคือ Kempenfelt Bay เพราะจะเห็นตัวพลุชัดเจน บางคนต้องไปจับจองกันตั้งแต่ 3-4 โมงเย็นเลยทีเดียว พอถึงเวลาก็จะเคาน์ดาวน์กัน เหมือนธรรมเนียมวันปีใหม่สากล ได้บรรยากาศคนละแบบ บางคนก็ร้องรำทำเพลง ใส่หน้ากาก แต่งตัวสีสันก็มี เห็นแล้วเพลินตา เป็นสีสันของวันชาติแคนาดาสำหรับชาวแคเนเดียน
ทริปนี้ได้เห็นอะไรต่างๆ มากมาย แต่นำภาพมาให้ชมได้เท่านี้ เพราะมัวแต่เอนจอยกิจกรรมที่เค้าให้ดูทั้งวัน ไว้ติดตามกันใหม่ในทริปหน้ากับการลัดฟ้าจากประเทศแคนาดาที่อยู่เหนือสุดแล้วไปใต้สุด จะเป็นประเทศอะไรนั้น ไว้ติดตามชมกันนะคะ
พอตกเย็น คนแคเนเดียนส่วนใหญ่จะไปเคาน์ดาวน์กันข้างนอก ที่ ๆ popular มากคือ Kempenfelt Bay เพราะจะเห็นตัวพลุชัดเจน บางคนต้องไปจับจองกันตั้งแต่ 3-4 โมงเย็นเลยทีเดียว พอถึงเวลาก็จะเคาน์ดาวน์กัน เหมือนธรรมเนียมวันปีใหม่สากล ได้บรรยากาศคนละแบบ บางคนก็ร้องรำทำเพลง ใส่หน้ากาก แต่งตัวสีสันก็มี เห็นแล้วเพลินตา เป็นสีสันของวันชาติแคนาดาสำหรับชาวแคเนเดียน
ทริปนี้ได้เห็นอะไรต่างๆ มากมาย แต่นำภาพมาให้ชมได้เท่านี้ เพราะมัวแต่เอนจอยกิจกรรมที่เค้าให้ดูทั้งวัน ไว้ติดตามกันใหม่ในทริปหน้ากับการลัดฟ้าจากประเทศแคนาดาที่อยู่เหนือสุดแล้วไปใต้สุด จะเป็นประเทศอะไรนั้น ไว้ติดตามชมกันนะคะ
Subscribe to:
Posts (Atom)