วันนี้เรากลับมาในประเทศไทยบ้านเรากันอีกครั้ง ทริปนี้ไปแบบ เช้า- เย็นกลับ ไปขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ จ่ายคนละ ไม่ถึงร้อยบาท ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงนึงก็ถึง หาดบางแสน จังหวัดชลบุรีแล้วคะ
พอไปถึงก็เจอป้ายนี้เลยคะ
จากนั้นก็ไปหาที่นั่งเพื่อกินข้าว รับลมและแสงแดด กินไปด้วยเล่นน้ำไปด้วย ได้บรรยากาศไปอีกแบบ สั่งข้าวกินก็ไม่ต้องเสียค่าเปลนะ ต้องดูดี ๆ นะคะ วันนี้ไปน้ำแห้งไปหน่อย คนเลยได้เล่นน้ำไกลออกจากฝั่งโน่น
พอกินกันเสร็จก็ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมหน่อย ไปทางเขาสามมุก เจ้าแม่กวนอิมใหญ่มาก เลยได้เข้าไปไหว้พระขอพรกัน
พอเสร็จจากไหว้พระกันแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ต้องผ่านฝูงลิงจำนวนมาก ที่นี่ ก็เลยไปซื้อกล้วยมา เวลาถือต้องระวังนะ ไม่งั้นเจอลิงขโมยแบบกระชากไปแน่ๆ
พอให้อาหารลิงเสร็จ ปั่นจักรยานกลับไปที่ท่าจอดรถ ก็นั่งรถตุ้กลับไปลงกรุงเทพ เวลาวันเดียวได้ออกมาหาบรรยากาศนอก กรุงเทพฯ เปลี่ยนบรรยากาศไปก็ฉ่ำใจดีเหมือนกันนะ
ประสบการณ์ท่องเที่ยว สามารถเปิดโลกกว้างในสิ่งที่คุณอาจไม่รู้และได้เห็นในโลกใบนี้
Saturday, June 30, 2007
Saturday, June 23, 2007
Kuala Lumpur
วันนี้เราได้บินลัดฟ้าไปที่ Kuala Lumpur ทริปนี้ไปแค่ 3 วัน 2 คืน เช่นเคย บินจากกรุงเทพไป Kuala Lumpur โดยสายการบิน Air Asia พอบินไปถึง ก็ เช็คอินเข้าพักที่ Renaissance Kuala Lumpur Hotel ดูจากด้านนอกธรรมดามาก แต่ภายในห้องพักหรูหรามาก
ด้านหน้าทางเข้าของโรงแรม
ภายในห้องพักที่พัก รู้สึกเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง
ว่้าง ๆ ก็ไปเดินรอบ ๆ โรงแรม จนได้มาเห็นสระว่ายน้ำ ก็เลยขอถ่ายซะ
อีกมุมนึง ถ่ายให้ดูตอนกลางคืน โรงแรมนี้ดีอยู่อย่างตรงที่ว่า ถ้ายอมจ่ายแพงหน่อย ห้องพักจะอยู่ตรงข้ามกับ Petronas Twin Towers สามารถเห็นได้จากห้องพักเลย กลางวันและกลางคืนก็จะสวยงามต่างกัน ได้ความรู้สึกของ city มาก ๆ
พอ survey เสร็จ ก็เลยออกไปเดินเล่นรอบ ๆ แถว ๆ นั้น หาของกิน กินเสร็จก็ได้เดินมาถึงสวนสาธารณะที่หนึ่งแห่งนี้ City Park ที่อยู่ใจกลางเมืองของ Kuala Lumpur บรรยากาศดีและกว้างมาก และผู้คนก็ออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย
พอตกเย็นหน่อย ก็เลยได้ออกมาดู Petronas Twin Towers สวยงามอย่างที่เค้าร่ำลือจริงๆ แต่โดยส่วนตัวจะชอบวิวนี้ตอนกลางคืนมาก สวยงามและสะดุดตาจริงๆ
หลังจากผ่านไปคืนแรก ก็มาถึงวันที่สอง วันนี้เดินทางไปย่าน มุสลิม ถ้าจะเดินแถวนี้ แนะนำให้แต่งตัวรัดกุมนิดนึง แต่งกายให้สุำภาพดีกว่า ตรงนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กับ Merdeka Square (Independence Square)
จากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอ Sultan Abdul Samad Building (Bangunan Sultan Abdul Samad Building แต่อันนี้ไม่ใช่ด้านหน้า เพราะวันนั้นเค้าปิดทาง เลยไม่ได้ถ่ายอีกด้านนึงมา ยังไงดูด้านนี้ไปก่อน
หลังจากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดหมาย ตามสองข้างถนนเป็นต้นไม้ประดับและอยู่ในเขต Park อยู่ เดิน ๆ ไปจนได้เจอต้นไม้ต้นใหญ่ต้นนี้ (จริงๆ ทำขึ้นมา แต่ดูเหมือนจริงมาก)
วันนี้เดินทั่ว Park อีกที่จนเหนื่อยทั้งวัน หลงทางบ้าง ก็ถามคนแถวนั้นเอา แต่ก็ได้รู้จักผู้คน และวัฒนธรรมของชาวมุสลิมที่นี่ คนมุสลิมเค้าไม่ได้ร้ายอย่างที่หลายคนคิดเลยนะคะ ไม่ว่าชาติไหนทุกคนก็เป็นคนดีได้ด้วยกันทั้งนั้น ภาพที่นำเสนอมานี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของทริปเ่ท่านั้น เพราะภาพ background ถ่ายไปกับคนเขียนบล็อคซะเป็นส่วนใหญ่ เลยได้มีให้ลงกันแค่นี้นะคะ >.<
ด้านหน้าทางเข้าของโรงแรม
ภายในห้องพักที่พัก รู้สึกเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง
ว่้าง ๆ ก็ไปเดินรอบ ๆ โรงแรม จนได้มาเห็นสระว่ายน้ำ ก็เลยขอถ่ายซะ
อีกมุมนึง ถ่ายให้ดูตอนกลางคืน โรงแรมนี้ดีอยู่อย่างตรงที่ว่า ถ้ายอมจ่ายแพงหน่อย ห้องพักจะอยู่ตรงข้ามกับ Petronas Twin Towers สามารถเห็นได้จากห้องพักเลย กลางวันและกลางคืนก็จะสวยงามต่างกัน ได้ความรู้สึกของ city มาก ๆ
พอ survey เสร็จ ก็เลยออกไปเดินเล่นรอบ ๆ แถว ๆ นั้น หาของกิน กินเสร็จก็ได้เดินมาถึงสวนสาธารณะที่หนึ่งแห่งนี้ City Park ที่อยู่ใจกลางเมืองของ Kuala Lumpur บรรยากาศดีและกว้างมาก และผู้คนก็ออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย
พอตกเย็นหน่อย ก็เลยได้ออกมาดู Petronas Twin Towers สวยงามอย่างที่เค้าร่ำลือจริงๆ แต่โดยส่วนตัวจะชอบวิวนี้ตอนกลางคืนมาก สวยงามและสะดุดตาจริงๆ
หลังจากผ่านไปคืนแรก ก็มาถึงวันที่สอง วันนี้เดินทางไปย่าน มุสลิม ถ้าจะเดินแถวนี้ แนะนำให้แต่งตัวรัดกุมนิดนึง แต่งกายให้สุำภาพดีกว่า ตรงนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กับ Merdeka Square (Independence Square)
จากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอ Sultan Abdul Samad Building (Bangunan Sultan Abdul Samad Building แต่อันนี้ไม่ใช่ด้านหน้า เพราะวันนั้นเค้าปิดทาง เลยไม่ได้ถ่ายอีกด้านนึงมา ยังไงดูด้านนี้ไปก่อน
หลังจากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดหมาย ตามสองข้างถนนเป็นต้นไม้ประดับและอยู่ในเขต Park อยู่ เดิน ๆ ไปจนได้เจอต้นไม้ต้นใหญ่ต้นนี้ (จริงๆ ทำขึ้นมา แต่ดูเหมือนจริงมาก)
วันนี้เดินทั่ว Park อีกที่จนเหนื่อยทั้งวัน หลงทางบ้าง ก็ถามคนแถวนั้นเอา แต่ก็ได้รู้จักผู้คน และวัฒนธรรมของชาวมุสลิมที่นี่ คนมุสลิมเค้าไม่ได้ร้ายอย่างที่หลายคนคิดเลยนะคะ ไม่ว่าชาติไหนทุกคนก็เป็นคนดีได้ด้วยกันทั้งนั้น ภาพที่นำเสนอมานี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของทริปเ่ท่านั้น เพราะภาพ background ถ่ายไปกับคนเขียนบล็อคซะเป็นส่วนใหญ่ เลยได้มีให้ลงกันแค่นี้นะคะ >.<
Friday, June 15, 2007
Langkawi
วันนี้ เราขอพาออกนอกประเทศ ไปประเทศเพื่อนบ้านกันหน่อยที่ประเทศมาเลเซีย วันนี้เราไปกันที่ Langkawi ก็นั่งเครื่องบินไปไฟลท์แต่เช้า ด้วย Air Asia บินจาก Bangkok- Kuala Lumpur -Langkawi ไปถึงโน่น ก็เที่ยงเกือบบ่ายโมง ทริปนี้ไปแค่ 4 คืน 3 วัน ไม่ได้จองโรงแรม หรืออะไรทั้งสิ้น ไปเช่าโรงแรม กับเช่ารถยนต์ส่วนตัวตอนบินไปถึง Langkawi ดีลที่ได้ก็ถือว่าไม่แพงมากจากที่ขายตามอินเตอร์เนต แต่ก็พออยู่ได้
ตอนนั้นที่ไป ค่าเงินที่มาเลเซียใช้เป็น ริงกิต; 1 ริงกิต เท่ากับ 10 บาท ของไทย พอไปถึงได้รถยนต์แล้วก็ขับไปที่ โรงแรม Mutiara Burau Bay Beach Resort ไม่ได้คิดว่าโรงแรมจริงจะสวยกว่าในรูปเสียอีก พอไปด้านหลังของโรงแรม เป็น Private beach กับต้นปาล์มเรียงเป็นแถว พร้อมวิวภูเขาด้วย โรงแรมนี้ ตั้งอยู่ปลายเขาของ Mt. Mat Cincang และ จุดชมวิวทะเลของ Burau Bay and Pantai Kok โรงแรมนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีจาก Langkawi Airport
ภาพนี้เป็นด้านหลังของโรงแรม และเป็นหาดส่วนตัวด้วย ก็เลยได้เก็บภาพสวย ๆ ของตัวเองแล้วภาพวิวมาให้ชมกัน
วันที่สอง ก็ตื่นแต่เช้า ขับรถไป Oriental Village มาที่นี่ รู้สึกเหมือนมาเมืองจีน สถาปัตยกรรมหลายอย่าง รวมทั้งสวนที่จัด สวยงามมาก
อีกมุมนึงของ Oriental Village หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ก็เตรียมตัวไปทางเข้า ของ Langkawi Cable Car จะขึ้นได้ต้องเสียค่าบัตรขึ้น Langkawi Cable Car ด้วย ค่าบัตร ประมาณ 60 ริงกิตต่อคน (ซื้อตอนที่อยู่สนามบินลังกาวี)
หลังจากขึ้นไปวันนั้น อากาศเย็นมาก เพราะฝนตกก่อนหน้านี้ ก็นั่ง Cable Car จนถึงจุดบนสุด ซึ่งได้เห็นวิวของ ลังกาวีทั้งหมด ดูเหมือนเป็นเกาะเล็ก ๆ แต่จริงๆ ก็ใหญ่เหมือนกัน
ภาพนี้คือ Cable Car ที่ใช้ขึ้นลง ถ่ายอีกมุมนึงจาก Mt. Mat Cincang
อีกมุมนึงของ Mt. Mat Cincang ถ่ายจากที่ยืนอยู่ Sky Bridge
วันที่สาม วันต่อมา ขอแบบชิว ๆ ไปดำน้ำ (Scuba Diving) ครั้งแรกที่ Pulau Payar Marine Park ที่นี่ต้องเสียค่าดำน้ำ (กรณีเช่าอุปกรณ์และค่าเข้าเกาะ) ด้วย มีแบบจองผ่านเอเจนซี่ ไม่ก็ขึ้นเรือตอนข้ามเกาะ จะมีคนมาขายกันบนเรือเลย (ถูกกว่าเอเจนซี่) ดำน้ำครั้งแรกก็ปวดหู ปวดหัวเลยทีเดียว ไม่ได้คิดว่าทริปนี้จะมีดำน้ำ เลยไม่ได้เตรียมกล้องกันน้ำไว้ เลยลงไว้แค่วิวให้ดูกัีนไปก่อนนะคะ
ทริปนี้ กลับมาตัวดำมาก เพราะดำน้ำ แต่น้ำและปะการัง ที่มาเลเซีย สวยใสไม่แพ้เมืองไทยบ้านเราจริงๆ คะ
ตอนนั้นที่ไป ค่าเงินที่มาเลเซียใช้เป็น ริงกิต; 1 ริงกิต เท่ากับ 10 บาท ของไทย พอไปถึงได้รถยนต์แล้วก็ขับไปที่ โรงแรม Mutiara Burau Bay Beach Resort ไม่ได้คิดว่าโรงแรมจริงจะสวยกว่าในรูปเสียอีก พอไปด้านหลังของโรงแรม เป็น Private beach กับต้นปาล์มเรียงเป็นแถว พร้อมวิวภูเขาด้วย โรงแรมนี้ ตั้งอยู่ปลายเขาของ Mt. Mat Cincang และ จุดชมวิวทะเลของ Burau Bay and Pantai Kok โรงแรมนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีจาก Langkawi Airport
ภาพนี้เป็นด้านหลังของโรงแรม และเป็นหาดส่วนตัวด้วย ก็เลยได้เก็บภาพสวย ๆ ของตัวเองแล้วภาพวิวมาให้ชมกัน
วันที่สอง ก็ตื่นแต่เช้า ขับรถไป Oriental Village มาที่นี่ รู้สึกเหมือนมาเมืองจีน สถาปัตยกรรมหลายอย่าง รวมทั้งสวนที่จัด สวยงามมาก
อีกมุมนึงของ Oriental Village หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ก็เตรียมตัวไปทางเข้า ของ Langkawi Cable Car จะขึ้นได้ต้องเสียค่าบัตรขึ้น Langkawi Cable Car ด้วย ค่าบัตร ประมาณ 60 ริงกิตต่อคน (ซื้อตอนที่อยู่สนามบินลังกาวี)
หลังจากขึ้นไปวันนั้น อากาศเย็นมาก เพราะฝนตกก่อนหน้านี้ ก็นั่ง Cable Car จนถึงจุดบนสุด ซึ่งได้เห็นวิวของ ลังกาวีทั้งหมด ดูเหมือนเป็นเกาะเล็ก ๆ แต่จริงๆ ก็ใหญ่เหมือนกัน
ภาพนี้คือ Cable Car ที่ใช้ขึ้นลง ถ่ายอีกมุมนึงจาก Mt. Mat Cincang
อีกมุมนึงของ Mt. Mat Cincang ถ่ายจากที่ยืนอยู่ Sky Bridge
วันที่สาม วันต่อมา ขอแบบชิว ๆ ไปดำน้ำ (Scuba Diving) ครั้งแรกที่ Pulau Payar Marine Park ที่นี่ต้องเสียค่าดำน้ำ (กรณีเช่าอุปกรณ์และค่าเข้าเกาะ) ด้วย มีแบบจองผ่านเอเจนซี่ ไม่ก็ขึ้นเรือตอนข้ามเกาะ จะมีคนมาขายกันบนเรือเลย (ถูกกว่าเอเจนซี่) ดำน้ำครั้งแรกก็ปวดหู ปวดหัวเลยทีเดียว ไม่ได้คิดว่าทริปนี้จะมีดำน้ำ เลยไม่ได้เตรียมกล้องกันน้ำไว้ เลยลงไว้แค่วิวให้ดูกัีนไปก่อนนะคะ
ทริปนี้ กลับมาตัวดำมาก เพราะดำน้ำ แต่น้ำและปะการัง ที่มาเลเซีย สวยใสไม่แพ้เมืองไทยบ้านเราจริงๆ คะ
Subscribe to:
Posts (Atom)