Goa Island

ทริปนี้ขอพาออกนอกประเทศอีกครั้ง เราไปกันที่อินเีดีย 3 วัน 2 คืน  โดยสายการบิน Thai Airways  (Bangkok -Mumbai) ประมาณ 5 ชั่วโมง แล้วไปต่อสายการบิน Air India (Mumbai- Goa Island) ประมาณอีก 2  ชั่วโมง เค้าว่ากันว่า beach ที่สวยงามของชาวอินเดีย ที่ไม่ควรพลาดและต้องไปคือ  Goa Island จะสวยหรือไม่อย่างไรนั้น ต้องตามไปชมภาพกันเองคะ


เช็คอินเข้าที่ โรงแรม Le Seasons Beach Resort  ที่ Goa Island บางจุดของโรงแรมมีการตกแต่งสไตล์ European

วิวจาก Balcony ที่ห้องพัก เห็นวิวกันชัด ๆ แบบนี้เลย

พอเช็คอินเสร็จ ก็ไปเดินเล่นตามชายหาดใกล้เคียงโรงแรม

อีกมุมนึงของชายหาด เดินเล่นแล้วก็เล่นน้ำ หมดไปวันแรก

พอเข้าวันที่สอง ทริปนี้ก็ทริปชายหาดเช่นเคย ไปหาดที่เค้าว่า ยังสวยที่สุด ก็ได้ไปเดินเล่น แต่วันนี้ไม่เล่นน้ำ ก็เลยอ่านหนังสือใต้ร่มชายหาดทั้งวัน ตื่นขึ้นมา ดำกู่ไม่กลับขนาดใต้ร่มชายหาดยังไม่ช่วยเรื่องผิวเลย

มาดูอีกมุมนึงของหาดนี้แต่เห็นเป็นน้ำใส เหมือนเป็นลำธาร แต่จริงๆ มุมนี้ต่อไปกับทะเลเหมือนกัน หรือที่เรียกว่า  Indian Ocean of India นั่นแหละ

สองวันนี้หมดไปกับทริปชายหาด ชายทะเล ชิวมากจริงๆ พอวันรุ่งขึ้นก็บินกลับไป Mumbai- Bangkok ทริปนี้ก็เหนื่อยใช้ได้ เพราะ ดูเร่ง ๆ แต่คุ้มค่ากับเงินทองและเวลา

Temple of Dawn

วันนี้ไปไหว้พระกันที่ วัดอรุณราชวราราม หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดแจ้ง หรือ  วัดยักษ์แจ้ง" ตั้งอยู่ที่กรุงเทพ เป็น 1 ใน 9 วัดของคนกรุงเทพ ซึ่งมากราบไหว้กันเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง


วัดนี้ติดริมน้ำเจ้าพระยา และได้เห็นวิวกว้าง ของวิถีชาวบ้าน ตัววัดวิจิตรสวยงามเช่นเดียวกัน

วัดนี้ดีอยู่อย่างเพราะมีท่าเรือข้ามไปท่าเตียนได้เหมือนกัน พอข้ามไปถึงก็จะเป็นวัดโพธิ์ หรือที่เรียกกัน วัดโพธิ์ ท่าเตียน ก็ไปไหว้พระกันต่อได้

Phuket & Phang Nga

ทริปนี้ขอออกนอกกรุงเทพฯ อีก ไปกันที่ภูเก็ต นั่งเครื่องบินของ One-Two-Go Airlines ทริปที่ไปนี้ ถือว่าโชคดีมาก เพราะไปก่อนเกิดเหตุ เครื่องบินตกหลังจากนั้น อีกหนึ่งอาิิทิตย์ ถัดมา (หวุดหวิดจริงๆ)  ทริปนี้ซื้อแพคเกจภูเก็ต ถูกมากประมาณ คนละ 3,000 กว่าบาท เพราะซื้อในเว็บไซต์หนึ่ง แล้วเค้ามีโปรโมชั่นอยู่ ก็เลยได้ไป Khao Phing Kan  หรือที่เรียกว่า  James Bond Island ที่มาถ่ายหนังเรื่อง James Bond บ้านเรานั่นแหละ เมืองไทย ดังเปรี้ยงเลย

พอบินไปถึงสนามบินภูเก็ต ก็มีไกด์มารับเช็คอินที่โรงแรม หลังจากนั้น ไกด์ก็พาไปหาดนึง แถว ๆ แหลม พรหมเทพ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ที่นี่ดีอย่างติดริมทะเล พอกินเสร็จก็ไปเดินเล่นย่อยสักพัก ก่อนออกเดินทาง

อาหารกินไปสักพัก เพิ่งจะมาถ่ายรูปให้เห็น 

ไปต่อวัดฉลอง (หรือ วัดไชยธาราราม)

เสร็จจากไหว้พระแล้วก็ไปดูจุดชมวิว ที่แหลมสิงห์

หลังจากนั้นก็ขับรถไปในรอบ ๆ เมือง แล้วก็พักเข้าที่พัก สำหรับวันต่อไป

สำหรับวันที่สองนี้ ก็ เตรียมไป snorkeling และว่ายน้ำกันที่เกาะพีพี ซึ่งได้แวะกันที่ Monkey beach และ  Phi Phi Leh , Bamboo Island, Khai Nai Island

พอเสร็จจากทัวร์นี้ พอมีเวลาเหลือสักเกือบชั่วโมง หลังจากทัวร์ได้ส่งที่โรงแรมแล้ว ก็เลยตัดสินใจ นั่งรถมอเตอร์ไซด์ ไปลงหาดป่าตอง ก่อนที่สึนามิจะเกิดขึ้น เพราะอยากรู้ว่าก่อนและหลังเกิดจะแตกต่างกันอย่างไร เพราะเคยมาตอนปี 2004 แล้วได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก็มาภูเก็ตอีกทั้งที ครั้งที่สอง ก็เลยแวะไปดู ไม่น่าเชื่อว่าโขดหินที่เคยอยู่อีกฝั่ง ย้ายไปอีกฝั่ง แล้วหาดกับ น้ำไม่ใสหรือสะอาดเหมือนที่เห็นเช่นเคย

พอดูเสร็จก็กลับไปโรงแรม นอกพักผ่อน เตรียมไปทัวร์อีกวันที่จังหวัดพังงา ไปถึงก็ไปที่วัดสุวรรณคูหา ซึ่งมีพระพุทธรูปนอนอยู่ด้านใน

หลังจากนั้นระหว่างทางก็ได้เก็บภาพหินงอกหินย้อย ตามถ้ำ และเกาะต่าง ๆ เช่น James Bond Island, เขาตะปู, ถ้ำลอด, เขาหมาจู, เขาช้าง ก่อนจะไปถึงที่กินข้าวที่เกาะปันหยี  เป็นหมู่บ้านกลางน้ำชุมชนชาวประมง และมีที่เลือกซื้อของประทับใจจากที่นี่เช่นกัน

ทริปนี้ กลับมาสะใจมาก ดำได้ใจดีจริงๆ รีบกลับมาแพคของที่โรงแรม เตรียมบินกลับกรุงเทพฯ แต่เช้าของวันถัดไป

Lebua Hotel

วัีนนี้ขอแนะนำ หนึ่งในร้านอาหารสุดหรูระดับห้าดาวยังเีทียบไม่ติดกัีบแบบ  Open roof ที่ โรงแรม เลอบัว สุรวงศ์ กรุงเทพฯ จะเข้าที่นี่ได้ ต้องแต่งกายสุภาพ เรียกว่า ไฮโซ กันเข้าไปเลย รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะ ก็ไม่ได้ คือ ผู้ชายต้องแต่งสูตรหรือแสลค รองเท้าหนังกันเลย ส่วนผู้หญิง ก็ต้องใส่เป็นเดรส กับรองเท้าส้นสูง จะมาที่นี่ได้ ก็ต้องจองล่วงหน้า เพราะที่นี่เค้าเต็มกัีนเกือบทุกวัน (คนรวย หรือไฮโซ คนต่างชาติจะไป Dinner  กันที่นี่  Exclusive มาก ๆ )

ภาพที่นำมาเสนอให้ดู นำมาจากอภินันทนาการของการหาจาก  Google เพราะภาพที่มีอยู่ เจ้าของบล็อค ถ่ายมากไปหน่อยกับหวานใจ เลยไม่ได้มาลงที่นี่ แต่อย่างน้อยก็ได้ภาพวิว กรุงเทพ ยามค่ำคืน สวยงามไปอีกแบบอย่างที่เห็นข้างล่างนี้


มุมนี้จะเป็นมุม Drinks ทั้งหลาย ถ้ายืนชิว ๆ ชมวิว หมดก็ขอจากตรงนี้ได้ แต่มีชาร์ทนะ (ไม่ฟรีนะจ๊ะ)

อีกมุมของกรุงเทพ ยามค่ำคืน

อีกมุมนึงของ Leubua Hotel

อีกมุมนึงของ Leubua Hotel

ทริปนี้ สั่งน้ำแร่ อาหารคนละจาน แล้วของหวานเป็นไอศครีมแบ่งกัน (แต่ไอศครีมไม่ธรรมดา แต่งหน้าสวยหรู อิมพอร์ต) มื้อนี้ จ่ายไป 8,000 กว่าบาท บิลมาจะเป็นลม ขนาดไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ แล้วก็สั่งแค่นั้น แค่ลองครั้งเดียวในชีวิตนี้แหละ กำไรชีวิต  >.<

Hua Hin

ทริปนี้ชวน นั่งรถไฟไปหัวหิน การเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงได้ ขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ค่าบริการคนละ 100 บาท (ไม่รู้สมัยนี้ยังราคาเดิมอยู่หรือเปล่า ลองเช็คได้กับเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟหัวลำโพง) แต่รถไฟสายนี้ดีอยู่อย่าง ตรงที่ว่า สามารถลงเที่ยวจุดที่เป็นจุดท่องเที่ยวได้ ก็เลยได้ขอลงจอดที่พระปฐมเจดีย์ ไปกราบไหว้พระปฐมเจดีย์เพื่อเอาฤกษ์ สิริมงคลแก่ตัวสักหน่อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่หัวหิน



ตอนเช้าตรู่ก็มารอขึ้นรถไฟ ที่สถานีหัวลำโพง

พอสักพัก ก็ถึง พระปฐมเจดีย์ ที่จังหวัดนครปฐมแล้ว เข้าไปกราบไหว้พระปฐมสักหน่อย

เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟต่อมุ่งหน้าไปหัวหิน ระหว่างทางเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี ก็เลยเก็บภาพไว้มาให้ชมกัน

สุดท้ายก็มาถึงหัวหินจนได้ นั่งนานมากจนเมื่อยไปเลย

ก็นั่งกินข้าว เดินเล่นตามชายหาดสักสามสี่ชั่วโมง  ฟ้าครึ้มไปนิด แต่ก็ลมแรงชิว ๆ เหมือนกัน หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟกลับ กรุงเทพฯ

ทริปนี้ถือว่าเหนื่อยใช้ได้เหมือนกัน เพราะนั่งรถไฟไป-กลับ ซึ่งนานเหมือนกัน ถ้าไปหัวหิน ขอแนะนำ ไปสักสองวัน น่ากำลังจะดี จะได้ไม่เหนื่อยมากจากการนั่งรถไฟ ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวไป ก็สบายไปอีกแรงสำหรับทริปนี้

Dream World

วันนี้ตื่นแต่เช้าหน่อย ไปเที่ยวที่ Dream World  จังหวัดปทุมธานี เป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ไปแล้วไม่ผิดหวัง เพราะรู้สึกได้ถึงที่ตั้งของ ดีสนีย์ น้อย ๆ อยู่ที่บ้านเรานี่เอง  ถ้าขับรถยนต์ส่วนตัวไปเอง ก็ไม่ถึง 45 นาทีก็ถึงแล้ว

ไปถึงก็ซื้อตั๋ว ๆ ที่นี่มีหลายราคา ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่ทางเค้าจัด ถ้าไปแนะนำให้เล่นแบบเครื่องเล่นครบ แต่ก็มีให้เลือกอีกว่าจะเล่น หรือเข้าไปเล่นอย่างละครั้งหรือแบบ ไม่อั้น ราคาตั๋วของแบบไม่อั้นก็จะสูงขึ้นมา หรือว่าจะเข้าไปถ่ายรูปอย่างเดียว ไม่เล่นเครื่องเล่น ก็ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูเหมือนกัน ชอบแบบไหน อยากได้อย่างไร ต้องเช็คราคาอีกทีตอนซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์


พอซื้อตั๋วกันครบแล้ว ก็ขอไปถ่ายรูปสวย ๆ ด้านหน้าก่อน แดดดีมาก ต้องรีบถ่าย

พอเดินเข้าไปก็จะมีเจ้าหน้าที่ฉีกและเช็คตั๋วเรา แล้วเราก็เข้าไป เจอหลายอย่างมากมาย แต่ขอเอามุมนี้มาฝาก

พอถ่ายรูปเสร็จจากมุมนี้ ก็ได้อีกมุมนึง มาให้ดูกัน เป็นมุมของรถไฟเหาะตีลังกา

หลังจากนั้น ก็เดินไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย เลยไปเล่น Hurricane ต่อ แต่ภาพนี้ได้มาตอนนั่ง Monorail ก็เลยได้ภาพมุมกว้างทั้งวิวมาให้ชมกัน

หลัีงจากนั้น ไปเล่นปลาหมึกยักษ์ เวียนหัวใช่เล่น  แต่มุมนี้ เก็บภาพตอนอยู่บน Monorail  อีกเหมือนกัน

พอหมดจากอันนี้ ไปหาของกินก่อน พอกินสักพัก ก็ไปเล่น รถไฟฟ้าตะลุยจักรวาล อันนี้ถ่ายตอนที่มีแสงไฟ

หลังจากนั้น อยากหาอะไร ๆ มัน ๆ เล่นแบบเปียก ๆ ก็ต่อด้วยนี่เลย Grand Canyon

ทริปนี้มีภาพเยอะมาก แต่หมดไปกับการถ่าย background กับตัวเอง เลยได้ให้มาชมกันแค่นี้

Samet

ทริปนี้เราจัดไปที่ทะเลอีกครั้งนึง แต่ครั้งนี้ไกลจากกรุงเทพออกไปหน่อย นั่งรถทัวร์ไปก็สามถึงสี่ชั่วโมง ก็ต้องข้ามไปเกาะเสม็ดอีก จากบ้านเพ จะไปลงหาดไหน ชอบหาดไหนก็ตามสบายกันได้เลย แต่วันนี้ขอลงหาดเทียน เพราะส่วนตัวชอบแบบเงียบๆ  ไม่พลุกพล่าน หาดนี้จะอยู่ถัดจาก อ่าววงเดือนไปอีก จะนั่งเรือมาลงเลย หรือไปลงที่อ่าววงเดือน ก็เดินข้ามเขามาที่หาดแสงเทียนก็ได้ ตามถนัด


ทริปนี้มาพักกันที่ หาดแสงเทียนบีช รีสอร์ท คืนละ 1,700  บาท ก็ได้โลเคชั่นดีเพราะติดหน้าหาด (ไปช่วงโล เลยถูกหน่อย ต่อรองกันซะเมื่อยปากกันไปเลย)

พอทำการตกลงเสร็จก็เช็คอิน ห้องนอนก็ดูสะอาดตาเหมือนเคย ไปเสม็ดทีไรจะมาที่นี่ประจำ เพราะเงียบสงบ แล้วคนที่รีสอรท์นี้เป็นกันเอง ไม่เหมือนหาดอื่น

พอได้ฤกษ์แล้วก็เปลีั่ยนเป็นชุดว่ายน้ำใส่ผ้าชายทะเล ชิว ๆ ไปกินข้าวก่อน เอาแรงไว้เล่นน้ำ บรรยากาศชิวมาก ที่อ่าวเทียน แต่ท้องฟ้าครึ้มไปนิด

มาให้ชมอีกวิว ที่นั่งกิน ชิวจริง ๆ  ภาพนี้ถ่ายตอนเย็นลงมาหน่อย เลยไม่สวยเท่าไหร่

กินเสร็จ ก็ไปเล่นน้ำนิดหน่อย นอนอ่านหนังสือ เป็นวันที่สบาย ๆ ชิว จริงๆ เวลาหมดไปกับวันแรก
พอวันที่สอง อากาศดีมาก วันนี้เตรียมตัวไปดำน้ำ เสีย 600 บาท พาไป snorkeling แล้วก็ได้ดูวิวรอบเกาะไป

ใช้เวลาเล่นน้ำและ snorkeling ไปกับปลา Nemos  กินข้าว ก็หมดไปอีกหนึ่งวัน คืนนี้นอนเอาแรงพรุ่งนี้ออกไปขึ้นเรือที่อ่าววงเดือนแต่เช้า เพื่อกลับไปบ้านเพ แล้วนั่งรถทัวร์กลับ กรุงเทพฯ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ ที่ชอบมาเพระาไม่ไกลจากกรุงเทพ น้ำใส เหมือนลงไปภาคใต้บ้านเรา ใช้เวลาศุกร์ ถึงอาทิตย์ หรือเสาร์อาทิตย์ ก็ได้ เพื่อได้หลบจากความชุลมุนวุ่นวายในกรุงเทพ ทริปนี้อาจเป็นทริปสั้น ๆ แต่คุณอาจคาดไม่ถึง ว่ามันสามารถทำให้คุณ Relax ไปกับมันได้อย่างสบาย ๆ